เลขที่ อย. : 20-1-13451-5-0113
 
 
 
Well u go out เหมาะกับใคร?
 
1.ผู้ที่มีปัญหากรดยูริคในเลือดสูง
 
2..ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์
 
 
 
บรรจุในภัณฑ์
 
-แคปซูลสีขาว จากพืช (ทำจากพืชตระกูลสน Vcap plus)
 
-แผงละ 10 แคปซูล ภายใน บรรจุ 2 แผง รวมเป็น 20 แคปซูล 
 
-ทานพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันที
 
-รับประทานวันละ 1 แคปซูล
 
-เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
 
-ห้าม!!! ใช้ในผู้ที่มีท่อน้ำดีอุดตัน
 
 
 
หากมีโรคประจำตัวร้ายแรงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานอาหารเสริมทุกประเภท
 
 
 
ส่วนผสมต่อ 1 แคปซูล
 
-สารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว (Chrysanthemum Extract )100.00 มก.
 
-ผงสับปะรด (Pineapple) 80.00 มก.
 
-วิตามินซี (Vitamin C) 60.00 มก.
 
-สารสกัดจากมะขามป้อม (Emblica Extract) 50.00 มก.
 
-สารสกัดจากเซเลอรี่(Celery Extract) 50.00 มก.
 
-สารสกัดจากขมิ้นชัน (Turmeric Extract) 50.00 มก.
 
-กรดโฟลิก (Folic Acid) 0.20 มก.
 
 
 
ี่รายละเอียดสารสกัดทั้งหมด
 
1.สารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว (Chrysanthemum Extract / Kiku
 
  Flower Extract) – เป็น 1 ใน 4 ของดอกไม้ของชนชั้นสูงของประเทศญี่ปุ่น
 
  นิยมใช้ทำอาหาร และยาทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ
 
  มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบให้แก่เซลล์
 
 
 
2.สารสกัดจากขึ้นฉ่าย  (Celery Extract)
 
  – เป็นพืชที่พบในทวีปยุโรป, แอฟริกา และเอเชีย ในสมัยก่อนนิยมใช้ทำยาสมุนไพรเพื่อลดอาการเจ็บปวดต่างๆ
 
  ปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนายารักษาโรค สารสกัดจากขึ้นฉ่ายประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หลายชนิดได้แก่ กรดคาแฟอิก
 
  (Caffeic Acid), อะพิเจนิน (Apigenin), ลูทีโอลิน (Luteolin), แทนนิน (Tannin),
 
  ซาโปนิน (Saponin) ที่ล้วนแล้วแต่ช่วยส่งเสริมการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แซนทีน
 
  ออกซิเดส (Xanthine Oxidase) เพื่อลดการสร้างกรดยูริกในร่างกาย 
 
 
 
 3.กรดโฟลิก (Folic Acid) – วิตามินบี 9 เป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำได้
 
  มีความจำเป็นในกระบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เนื้อเยื่อในการเจริญเติบโตของร่างกาย
 
  กรดโฟลิกสามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ดีกว่า จากการศึกษาพบว่ากรดโฟลิคเอง
 
  มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการยับยั้งเอนไซม์แซนทีน ออกซิเดส (Xanthine Oxidase)
 
  และควบคุมการสร้างกรดยูริกในร่างกายด้วยเช่นกัน 
 
 
 
 4.สารสกัดจากมะขามป้อม (Emblic Extract) – เป็นพืชท้องถิ่นในทวีป อินเดีย และพบได้ในแถบตะวันออกกลาง
 
  และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
  ในสมัยก่อนนิยมใช้ทำเป็นยาทางอายุรเวทที่ช่วยเกี่ยวกับระบบหัวใจ
 
  อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลาย ได้แก่ สารแทนนิน (Tannin), อัลคาลอยด์
 
  (Alkaloids),  ฟีนอล (Phenols),
 
  ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) รวมถึงยังประกอบไปด้วยกรดอะมิโน, วิตามิน, คาร์โบไฮเดรต
 
  และกรดอินทรีย์ เช่น กรดซิตริก (Citric Acid) ในปริมาณสูง สารสกัดจากมะขามป้อมมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ
 
 
 
  5.วิตามินซี ประเภทโซเดียม แอล แอสคอเบต (Sodium L-Ascorbate) 
 
  เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำ มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
 
  โซเดียม แอล แอสคอเบต คือวิตามินซีในรูปเกลือของวิตามิน
 
  มีคุณสมบัติเป็นเกลือมากกว่าเป็นกรด
 
  จึงช่วยลดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหารได้ดี 
 
 
 
  6.สารสกัดจากขมิ้น (Turmeric Extract) - ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่เป็นพืชล้มลุก
 
  ที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง
 
  มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีส้มเข้ม
 
  โดยถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประวัติในการนำมาใช้ในการรักษามากกว่า
 
  5,000 ปี ในอดีตอินเดียและจีนนำมาใช้รักษาโรคหลากหลายชนิด
 
  มีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่างๆ
 
  ตำราแพทย์แผนไทยใช้เหง้าทำยาบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีสารสำคัญคือ
 
  สารเคอร์คูมินอย (Curcuminoids) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยจากการศึกษาในผู้ป่วยโรครูมาตอยด์พบว่า
 
  สารเคอร์คูมินอย สามารถช่วยลดการอักเสบหลังผ่าตัดและอาการดีขึ้นได้ 
 
 
 
  7.ผงสับปะรด (Pineapple Powder) – อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร
 
  และมีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) คือ
 
  เอนไซม์ที่ย่อยโปรตีนโมเลกุลใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง
 
  ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยลดอาการบวมและการอักเสบ ลดอาการข้ออักเสบ
 
  ลดอาการปวดตามข้อต่อ  การศึกษาทางคลินิก
 
  ในอาสาสมัครที่มีอาการปวดข้อต่อ จำนวน 29 คน
 
  รับประทานสารสกัดที่มีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ปริมาณ 60-160 mg/day
 
  พบว่าช่วยลดอาการปวดและบวมลงได้ 72.4% นอกจากนี้พบว่าอุดมด้วยวิตามินซี
 
  ซึ่งจะช่วยเสริมการทำงานกับวิตามินซี (Sodium L-Ascorbate)
 
  ในการขับกรดยูริกออกจากร่างกายได้ดีขึ้น